วันนี้ สถาบันสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ EngCouncil จะชวนเพื่อน ๆ ที่ อยากเก่งภาษาอังกฤษ มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำว่า Pros and Cons ว่าจริง ๆ แล้วแปลว่าอะไร ใช้เมื่อไหร่ และมีวิธีการใช้อย่างไรในชีวิตประจำวัน
คำว่า Pros and Cons เป็นคำที่ใช้กันบ่อยมาก ทั้งในการเขียนเรียงความ พูดคุยในที่ทำงาน หรือแม้แต่การตัดสินใจทั่วไปในชีวิต มาดูกันเลยค่ะว่าแต่ละคำหมายถึงอะไร และใช้อย่างไรบ้าง
ความหมายของ Pros and Cons
คำว่า Pros และ Cons มาจากภาษาละติน
- Pros ย่อมาจาก pro, แปลว่า “สนับสนุน” หรือ “ข้อดี”
- Cons ย่อมาจาก contra, แปลว่า “คัดค้าน” หรือ “ข้อเสีย”
เมื่อนำมาใช้ร่วมกันในรูปแบบ Pros and Cons จะหมายถึง: “ข้อดีและข้อเสีย” หรือ “ด้านบวกและด้านลบ” ของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
2.ตัวอย่างของ Pros และ Cons
ตัวอย่างที่ 1: Online Learning
Pros:
- Flexibility to study anytime, anywhere. ยืดหยุ่น สามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา
- Access to a variety of resources and courses. เข้าถึงทรัพยากรและคอร์สเรียนที่หลากหลาย
- Saves time and travel expenses. ประหยัดเวลาและค่าเดินทาง
Cons:
- Lack of face-to-face interaction with teachers and peers. ขาดปฏิสัมพันธ์แบบเผชิญหน้ากับครูและเพื่อนร่วมชั้น
- Requires self-discipline and motivation. ต้องอาศัยความมีวินัยและแรงจูงใจในตัวเอง
- Technical issues can disrupt learning. ปัญหาทางเทคนิคอาจรบกวนการเรียน
ตัวอย่างที่ 2: Owning a Car
Pros:
- Convenient for travel and daily commutes. สะดวกสำหรับการเดินทางและการใช้งานประจำวัน
- Provides independence and privacy. ให้ความเป็นอิสระและความเป็นส่วนตัว
- Useful in emergencies or remote areas. มีประโยชน์ในกรณีฉุกเฉินหรือพื้นที่ห่างไกล
Cons:
- High costs for fuel, maintenance, and insurance. ค่าใช้จ่ายสูง ทั้งค่าน้ำมัน การบำรุงรักษา และประกันภัย
- Contributes to traffic and air pollution. ส่งผลต่อการจราจรและมลพิษทางอากาศ
- Parking can be challenging in crowded cities. การหาที่จอดรถอาจเป็นปัญหาในเมืองที่หนาแน่น
ตัวอย่างที่ 3: Working from Home
Pros:
- Flexibility in schedule. การมีความยืดหยุ่นในตารางเวลา
- No commuting time. ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง
- Better work-life balance. มีสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวที่ดีขึ้น
- Cost savings. ประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเดินทางและอาหารนอกบ้าน
Cons:
- Lack of social interaction. ขาดการปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน
- Distractions at home. มีสิ่งรบกวนสมาธิที่บ้าน
- Difficulty in maintaining discipline.อาจมีความยากในการรักษาระเบียบวินัยในการทำงาน
คำถาม-คำตอบที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใช้ Pros and Cons
- คำว่า Pros และ Cons สามารถใช้เป็นคำกริยาได้หรือไม่?
ไม่ได้ค่ะ คำว่า Pros และ Cons จัดเป็น คำนาม (Nouns) ที่แปลว่า “ข้อดี” และ “ข้อเสีย” โดยใช้ในบริบทของการวิเคราะห์หรือการเปรียบเทียบเท่านั้นค่ะ หากต้องการใช้เป็นคำกริยาเพื่อสื่อความหมายใกล้เคียง อาจใช้สำนวนเช่น “to weigh the pros and cons” (ชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย) แทนค่ะ
- ในการสนทนาทั่วไป สามารถใช้คำว่า “Pro” หรือ “Con” เดี่ยวๆ ได้หรือไม่?
สามารถใช้ได้ค่ะ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในบริบทของการพูดคุยแบบไม่เป็นทางการและต้องการความกระชับ คุณอาจพูดว่า “What’s the biggest pro of this plan?” (ข้อดีที่สุดของแผนนี้คืออะไร?) หรือ “There are a lot of cons.” (มีข้อเสียเยอะมาก) เพื่อสื่อสารอย่างรวดเร็วได้ค่ะ
- ควรวางคำว่า Pros and Cons ไว้ส่วนไหนของประโยค?
มักจะใช้ในรูปแบบวลี “The pros and cons of [สิ่งของ/หัวข้อ]” ค่ะ โดยวลีนี้สามารถนำไปวางไว้ต้นประโยคเพื่อเป็นหัวข้อในการสนทนา หรือวางไว้ท้ายประโยคเพื่อสรุปผลการวิเคราะห์ได้ค่ะ เช่น “Let’s discuss the pros and cons of working from home.” ค่ะ
- มีสำนวนหรือคำอื่นที่ใช้แทน Pros and Cons ได้หรือไม่?
มีค่ะ คุณสามารถใช้คำว่า “Advantages and Disadvantages” ซึ่งเป็นคำที่มีความเป็นทางการมากกว่าค่ะ หรือใช้สำนวนอื่นๆ เช่น “Upsides and Downsides” หรือ “Benefits and Drawbacks” ได้เช่นกันค่ะ โดยให้เลือกใช้ตามระดับความเป็นทางการของการสื่อสารในสถานการณ์นั้นๆ ค่ะ
เป็นไงบ้างคะเพื่อน ๆ สำหรับเรื่อง Pros and Cons น่าสนใจเลยใช่มั้ยคะ สามารถเอาไว้เขียนวิเคราะห์ในเรื่องที่ต้องการตัดสินใจ กล่าวถึงข้อดี ข้อเสียได้เลยค่ะ แอดมินหวังว่าเพื่อนๆจะนำไปใช้กันนะคะ และถ้าหากว่าเพื่อนคนไหนสนใจคอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวแบบออนไลน์สามารถติดต่อเพื่อขอรับคำแนะนำการลงทะเบียนเรียนจากเราได้แล้วตั้งแต่วันนี้ค่ะ

