1.คำศัพท์พื้นฐานที่ควรรู้คือ
2.ประโยคที่ต้องใช้กับร้านค้า
เกร็ดความรู้ที่ควรทราบในการสั่งของออนไลน์จากต่างประเทศ👇
1. ช่องทางยอดนิยม
-
แพลตฟอร์ม e-commerce ต่างประเทศ
เช่น Amazon, eBay, AliExpress, iHerb, Shein, Temu → มีระบบจัดส่งตรงมาไทย -
บริการพรีออเดอร์/ชิปปิ้ง
เช่น Shipping ต่างประเทศ–ไทย (เช่น BuyandShip, Shipping.co.th, MyCloudFulfillment) → เหมาะสำหรับของที่ไม่มีส่งตรงมาไทย -
Direct Brand Website
บางแบรนด์ (เช่น Apple, Nike, Uniqlo Global) สามารถส่งตรงมาไทยได้
2. วิธีการสั่งซื้อ
-
สมัครบัญชีในแพลตฟอร์มที่ต้องการ
-
ใส่ที่อยู่จัดส่ง (ถ้าส่งตรงไทยได้) หรือใส่ ที่อยู่โกดังของบริษัทชิปปิ้ง (แล้วให้เขาส่งต่อเข้ามาไทย)
-
ชำระเงินด้วยบัตรเครดิต/เดบิต, PayPal, TrueMoney (ขึ้นกับแต่ละเว็บ)
-
รอการจัดส่ง — มักใช้เวลา 7–30 วัน (EMS/Express จะเร็วกว่า แต่แพงกว่า)
3. ภาษีนำเข้า & ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
-
มูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท (รวมค่าสินค้า+ค่าส่ง) → ปลอดภาษีนำเข้าและ VAT
-
มูลค่าเกิน 1,500 บาท → ต้องเสีย VAT 7% และบางชนิดอาจมี อากรขาเข้า เพิ่ม (เช่น เสื้อผ้า 30%, รองเท้า 30%)
-
ไปรษณีย์ไทย/บริษัทขนส่งจะเรียกเก็บภาษีก่อนส่งมอบของ
4. สิ่งที่ควรระวัง
-
สินค้าต้องห้าม: เช่น ยา, อาวุธ, สารเคมี, อาหารสด, พืช, สัตว์ ฯลฯ (ศุลกากรอาจยึด)
-
ค่าขนส่งแฝง: ของราคาถูกแต่ค่าส่งแพง (เช่น สินค้าจากยุโรป/อเมริกา)
-
การรับประกัน: บางสินค้า (เช่น มือถือ, เครื่องใช้ไฟฟ้า) อาจไม่รับประกันในไทย
-
ภาษี: ถ้าของถึงไทยและต้องเสียภาษี ศุลกากรหรือขนส่งจะโทร/แจ้งให้จ่ายก่อนรับของ
5. เคล็ดลับสั่งของให้คุ้ม
-
รวมออเดอร์หลายชิ้นให้ได้ 1 กล่องเดียว เพื่อลดค่าส่ง
-
ถ้าอยากได้ของเล็กๆ ราคาถูก → ใช้ AliExpress, Temu (มักส่งฟรี)
-
ถ้าของมูลค่าสูง → ตรวจสอบเรื่อง ประกันการขนส่ง
-
ใช้บริการที่มี tracking number เพื่อป้องกันการสูญหาย