เพราะอารมณ์มันได้คำทิ้งทายต้องมา! เปิดคำอุทานภาษาอังกฤษแบบจริตโตเมืองนอก

อัพเลเวลความอินเตอร์ เพิ่มอรรถรสให้บทสนทนาด้วยคำอุทานภาษาอังกฤษ! เรียนรู้วิธีใช้คำอุทานแบบเก๋ ๆ แสดงอารมณ์ได้ทุกสถานการณ์ พร้อมตัวอย่างประโยคให้ลองใช้

เพราะอารมณ์มันได้คำทิ้งทายต้องมา! เปิดคำอุทานภาษาอังกฤษแบบจริตโตเมืองนอก

            เคยเป็นไหม เวลารู้สึกมีอรรถรสเวลาอยู่ในบทสนทนา เรามักจะรู้สึกว่าตอนนี้แหละที่ต้องพูfหรืออุทานอะไรสักอย่างออกมา อย่างถ้าบ้านเราก็จะมีคำอุทานมากมายที่ทั้งแปลกใหม่และน่าสนใจไม่ว่าจะเป็น “คุณพระ” “แหมมม” ซึ่งเป็นคำที่เราคุ้นหูกันปกติและเพิ่มอรรถรสหรือการแสดงออกทางความรู้สึกได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้หลายๆ คนอาจรู้สึกว่าแค่ภาษาไทยมันธรรมดาไป อยากลองอุทานเป็นภาษาอังกฤษบ้างแต่ไม่รู้ว่าคำไหนต้องใช้กับสถานการณ์แบบไหน หรือสามารถนำมาใช้อย่างไรได้บ้าง บทความนี้จึงจะกลายเป็นตำราฉบับคำอุทานเป็นภาษาอังกฤษแบบจริตโตเมืองนอกมาฝากกัน

คำอุทาน มีกี่แบบ?

            คำอุทานหรือ interjections มักเป็นคำพูดที่บางครั้งไม่มีในพจนานุกรม เป็นที่ไม่มีความหมายเสมอไป หรืออาจจะเป็นการกล่าวถึงสิ่งของ ผู้คน เพศ ทั้งหมดนี้เพื่อแสดงออกหรือสื่อถึงความรู้สึกเช่น ดีใจ เสียใจ ตื่นเต้น หรือโกรธ ขั้นอยู่กับบริบทที่จะนำมาใช้และโทนเสียงที่ใช้ โดยเราสามารถจำแนกประเภทของคำอุทานได้หลัก 2 ประเภทหลักๆ ด้วยกัน

1.คำอุปทานแบบมีโครงสร้าง เป็นคำที่มีโครงวสร้างประโยคชัดเจน มักจะใช้คำต่างๆ เช่น What, How, Such, So, Thank ยกตัวอย่างประโยคการใช้ อย่างเช่น

  • That’s great! = ดีเลย
  • What an aweful weather! = อากาศแย่มาก
  • Thank god! = ของคุณพระเจ้า

2.คำอุทานที่ไม่มีโครงสร้าง เป็นคำที่มักจะมีคำเดียว หรือวลีเดียวเท่านั้น ส่วนใหญจะไม่มีโครงสร้างที่มีความหมาย เช่น

  • Oh god! = โอ้ คุณพระ
  • Wow! = โอ้โห
  • Phew! = ใช้ตอนร้สึกโล่งอก ประมาณว่าเกือบไปแล้ว
  • Eww = อี๋ แหวะ

แนะนำคำอุทานใช้บ่อยแบบจริตอินเตอร์ อินเนอร์จบนอก

เราพอจะได้เห็นตัวอย่างการใช้คำอุทานต่างๆ ไปกันหน่อยแล้ว มาดูกันดีกว่าว่าในสถานการณ์ไหนจะใช้คำอุทานแบบไหนได้บ้าง

Bravo! เป็นการแสดงความปิติยินดี ในแง่ของการชื่นชมตัวบุคคลส่วนมากใช้หลังการแสดง การชมละครหรือการแข่งขันอะไรสักอย่าง ตัวอย่างการใช้ในประโยค เช่น

       Ex: Bravo! Your acting is so on point! = เยี่ยมมาก การแสดงของเธอมันตรงใจมากๆ

Come on! เป็นการแสดงออกทั้งในแง่ของการให้กำลังใจ การปลอบใจให้สู้ ให้เอเนอจี้ตื่นเต้น หึกเหิม ให้กำลังใจ ใช้ได้ทุกสถานการณ์ เช่น

       Ex: Come on! you can do better than this! = ไม่เอาน่า นายทำได้ดีกว่านี้

Oops! เป็นคำที่มักใช้แสดงอารมณ์ตกใจแบบประหลาดใจแบบพอน่ารัก หรืออาจจะเป็นการทำอะไรผิดพลาดเล็กน้อยเหมือนคำว่า อุ้ย ก็ย่อมได้ ตัวอย่างดารใช้ก็ตามนี้เลย

        Ex: Oops! sorry about that = อุ้ย ขอโทษทีน้าเรื่องเมื่อกี้

You don’t say คำนี้ไม่ได้แปลว่าเธอไม่ได้พูดนะ แต่เป็นอารมณ์ประมาณว่า จริงหรอ อย่ามาล้อเล่นน่า เป็นต้น

Ew! Yuck! ให้ความรู้สึกขยะแขยงเวลาไม่ชอบบางสิ่ง ภาษาไทยก็อาจเป็นคำว่า อี๋ แหวะ ตัวอย่างการใช้มีดังต่อไปนี้

          Ex: Ew! This area is disgusting! อี๋ แถวนี้ดูสกปรกอะ

Oh my goodness/ Oh my god คำนี้เราน่าจะได้ยินกันบ่อยๆ แปลเหมือนกันคือ โอ้ พระเจ้า แสดงถึงความประหลาดใจ ตกใจมักใช้เป็นตัวย่อเช่น OMG ก็ย่อมได้ ตัวอย่างเช่น

           Ex: Oh my goodness! you look so good in that dress! = โอ้แม่เจ้า เธอใส่ชุดนั้นแล้วดูดีมาก

Damn it! เป็นคำที่แดงถึงความไม่พอใจ โกรธ โมโห ในถาษาไทยอาจจะให้อารมณ์แบบ โธ่เว้ย โหอะไรกัน ทำนองนี้

            Ex: Damn it! I think I fotgot my ID card! = โธ่เอ้ย ฉันว่าฉันลืมบัตรประชาชน

คำอุทานภาษาอังกฤษนั้นมีมากมาย และหลากหลายหารใช้งานมาก ดังนั้นถ้าอยากรู้สึกเพิ่มอรรถรสการใช้คำให้ประโยคดูน่าสนใจ โดยที่สามารถใช้ได้กับทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้เลย