Do you, Are you, Have you ใช้ต่างกันยังไง ทำไมไม่เหมือนกัน?

Do you vs. Are you vs. Have you  ใช้ต่างกันยังไง?

Do you want to eat this cake?

Are you going to eat this cake?

Have you eaten this cake?

ถ้ามองเผินๆ รูปประโยคสามประโยคนี้มีมันดูคล้ายกันมาก แต่ใช้คำนำหน้าแตกต่างกัน ดังนั้นแน่นอนเลยว่าความหมายก็ต้องต่างกันด้วย คำถามคือแล้วคำว่า Do you , Are you และ Have you มันต่างกันยังไง? ทำไมสามคำนี้ใช้คล้ายกัน แต่ความหมายต่างกันล่ะ ?

1.Do you: ใช้กับรูปประโยคที่กริยาไม่ผัน ใช้ร่วมกันแบบเบสิคๆ

Do you เป็น tense ที่นำมาสร้างประโยคที่เป็นอยู่กับปัจจุบัน (present) มีความทั่วๆไป และมักนำมาใช้กับกริยา (verb) ที่ไม่ผัน ใช้ถามเรื่องทั่วไปในปัจจุบัน ซึ่งกริยาไม่ผันมันก็คือเหล่ากริยาที่ไม่เติม -s, -es, -ed, -ing

หลักคือ Do you + V. base form

ตัวอย่างการเอามาใช้ในประโยคก็อย่างเช่น

  • Do you miss me ? = คุณคิดถึงฉันไหม ?
  • Do you cook ? = คุณทำอาหารไหม?

ฉะนั้นพอเป็นประโยคแบบนี้ เราจะใช้ missing ไม่ได้เลย เพราะมันคือกริยาที่ผันมาอีกที (เป็นกริยาแบบ continuous คือกำลังเกิดขึ้นอยู่เป็นปัจจุบันก็จริง แต่ยังถือว่าเป็นรูปประโยคที่ไม่ถูกต้องเพราะมันผันจึงต้องระวัง)

2.Are you: ใช้กับรูปประโยคที่กำลังเกิดขึ้น

Are you จะใช้กับเหตุการณ์หรือประโยคที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ มักใช้กับกริยาผันแบบ -ing

จะเป็นรูปประโยคแบบ Are you + V.ing 

ตัวอย่างประโยค เช่น

  • Are you working ? = คุณทำงานอยู่หรือเปล่า ?
  • Are you listening to me? = นี่เธอยังฟังฉันอยู่ไหม ?

ประโยค Are you ในแบบข้างต้นจะเน้นถามว่า “กำลัง…อยู่หรือเปล่า”

หรืออาจจะใช้เป็นคำถามประมาณว่า “กำลังจะ…หรือเปล่า/หรอ”

เช่น

  • Are you going to Australia ? = เธอจะไปออสเตรเลียหรือเปล่า ?
  • Are you coming to our wedding? = คุณจะมางานแต่งพวกเราไหม ?

หรือยังสามารถนำมาใช้กับคำคุณศัพท์ได้ด้วย เช่น

  • Are you ready? = คุณพร้อมไหม ?
  • Are you ok? = เธอโอเคไหม

หรือจะใช้กับคำนาม เช่น

  • Are you a teacher? = เธอเป็นครูหรือเปล่า?

นอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้กับคำบุพบท บอกตำแหน่งสถานที่หรือกำลังตกอยู่ในเหตุการณ์หนึ่งๆ อย่างเช่น

  • Are you from Japan? = เธอมาจากญี่ปุ่นหรือเปล่า ?
  • Are you in trouble? = เธอมีปัญหาใช่ไหม ?

และสุดท้ายสามารถนำมาใช้ในรูปประโยคแบบ Passive Voice ได้ด้วย มีความหมายว่า

“คุณถูก/ได้รับ…หรือเปล่า” เช่น

  • Are you engaged? = คุณได้รับการหมั้นแล้วหรอ? (ก็คือ คุณหมั้นแล้วหรอนั่นแหละ)

3.Have you: ใช้กับกริยาช่อง 3 เน้นถามเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตแต่ถามตอนนี้นะ!

คำว่า Have you มักจะเน้นใช้ในการถามที่ว่า “คุณทำ…หรือยัง”

มักใช้เป็นรูปประโยค Have you + V.3

ตัวอย่างการนำมาใช้ในรูปประโยคก็อย่างเช่น

  • Have you been in Phuket before? = คุณเคยไปภูเก็ตหรือยัง ?
  • Have you tried Mexican food ? = เคยกินอาหารเม็กซิกันหรือยัง ?
  • Have you heard about him ? = คุณเคยได้ยินเรื่องเขามาก่อนไหม ?

สรุปเนื้อหาทั้งสาม ต่างกันยังไงบ้างนะ?

เราลองมาเปรียบเทียบประโยคเดียวกัน แต่ใช้ต่างกันดีกว่าจะได้เห็นภาพกันมากขึ้น

สมมติเราจะถามอีกฝ่ายว่าสูบบุหรี่ไหม ทั้งนี้อยากให้โฟกัสที่กริยาที่เราเลือกใช้สำหรับแต่ละรูปประโยค ตามนี้เลย

  • Do you smoke? = คุณสูบบุหรี่ไหม ?
  • Are you smoking? = คุณกำลังสูบบุหรี่อยู่หรือเปล่า ?
  • Have you been smoking? = ช่วงนี้คุณสูบบุหรี่หรือเปล่า?

 (มันก็คืออดีตที่ดำเนินการมาถึงตอนนี้ได้ หรืออาจใช้คำว่า Have you tried to smoke?= เคยลองสูบไหม? สุดท้ายประเด็นสำคัญก็คือ Have you ก็ยังใช้กับการเป็น V+3 เหมือนเดิม)

เห็นกันไหมว่า Do you จะใช้กับเรื่องทั่วไป เรื่องที่เกิดขึ้นปกติ ไม่มีการผันกริยา ส่วน Are you ใช้กับการถามว่าเหตุการณ์กำลังเกิดขึ้นอยู่หรือเปล่า เป็นปัจจุบัน เน้นผัน V=ing และสุดท้าย Have you ที่จะเน้นถามเรื่องอดีตที่เกิดขึ้นไปแล้วและกำลังดำเนินมาจนถึงตอนนี้หรือที่เคยเกิดขึ้นในอดีตนั่นเอง

สนใจลงทะเบียนเรียน

สำหรับท่านใดที่ต้องการลงทะเบียนเรียน หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ผ่านช่องทางด้านล่างนี้ ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

บทความของเรา

พิชิตการออกเสียงภาษาอังกฤษด้วยเทคนิคเด็ดจาก Engcouncil!

การเรียนภาษาใหม่เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น แต่บางครั้งการออกเสียงอาจรู้สึกเหมือนเป็นอุปสรรคที่ท้าทายมาก เพราะภาษาไทยและภาษาอังกฤษนั้นมีการออกเสียงและการอ่านแต่ละคำนั้นจะมีความแตกต่างกัน แต่วันนี้เราจะบอกว่าไม่ต้องเครียดไปเพราะคุณไม่ได้รู้สึกว่ามันยากอยู่คนเดียวแน่นอน หลายๆ คนที่กำลังเรียนภาษาอังกฤษหลายคนประสบปัญหาเรื่องการออกเสียงภาษาอังกฤษ ข่าวดีก็คือ ด้วยความพยายามเพียงเล็กน้อยและวิธีการออกเสียงที่ถูกต้อง ใครๆ ก็สามารถเอาชนะความท้าทายเหล่านี้และพูดภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจ วันนี้ Engcouncil มีทริคอะไรมาดูกันเลย! เอาชนะความท้าทายในการออกเสียงภาษาอังกฤษ! เคล็ดลับและแบบฝึกหัดสำหรับคนฝึกพูด [...]

เลือกอ่านหนังสือภาษาอังกฤษอย่างไรให้เหมาะกับแต่ละช่วงวัย?

เลือกอ่านหนังสือภาษาอังกฤษอย่างไรให้เหมาะกับแต่ละช่วงวัย? การอ่านหนังสือนั้นนอกจากจะให้ความรู้และสร้างความเข้าใจต่อเนื้อหาหรือสร้างความบันเทิงแล้วยังช่วยในเรื่องของการสร้างสมาธิและการโฟกัสได้เป็นอย่างดี จึงไม่แปลกใจที่หนังสือมักเป็นคอมฟอร์ทโซนและเป็นทางเลือกที่ผู้ปกครองมักเลือกใช้เป็นเคล็ดลับในการสร้างสมาธิควบคู่กับให้ความรู้สำหรับเด็กๆ ในแต่ละช่วงวัย รวมไปถึงการสร้างสมาธิที่ดีต่อผู้ใหญ่เองด้วย หลายคนเริ่มหันมาสนใจการเลือกอ่านหนังสือภาษาอังกฤษมากขึ้นเพราะด้วยประการที่กล่าวมาข้างต้น นั้นคือเสริมสร้างทักษะการอ่านที่ดี และยังช่วยให้มีสมาธิมากขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามการเลือกหนังสือให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยนั้นก็มีความสำคัญและควรใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเลือกหมวดหมู่หรือ genre หรือจะเป็นระดับความยากของภาษาและความเหมาะสมของแต่ละช่วงวัยด้วย บทความนี้ Engcouncil จะมาแนะนำหนังสือภาษาอังกฤษที่เหมาะสมสำหรับแต่ละช่วงวัย [...]