หลักการเติม s และ es สำหรับคำกริยา

วันนี้ สถาบันสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ Engcouncil  จะมานำเสนอเรื่อง หลักการเติม s และ es สำหรับคำกริยา โดยคนที่ยังไม่แม่นเรื่องการเติม s/es ท้ายคำกริยา ในบทความนี้ แอดมินก็ได้เรียบเรียงหลักการมาให้ได้เรียนรู้กันแบบง่ายๆ ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ

1.การเติม s/es สำหรับกริยาใน Present Simple Tense

ใน present simple tense คำกริยาจะมี 2 รูป คือเอกพจน์และพหูพจน์ ซึ่งรูปเอกพจน์นั้นจะเป็นรูปที่ต้องเติม s/es ท้ายคำกริยา อย่างเช่น eats, walks, goes

อย่างไรก็ตาม การเติม s/es หลังคำกริยา ก็จะมีความต่างกันอยู่ โดยที่บางคำนั้นจะต้องเติม s ส่วนบางคำจะต้องเติม es และบางคำก็มีรูปเอกพจน์ที่ต่างจากพหูพจน์โดยสิ้นเชิง

  • คำกริยารูปเอกพจน์ได้แก่ is, does, has, คำกริยารูปที่เติม s/es
  • คำกริยารูปพหูพจน์ได้แก่ are, do, have, คำกริยารูปที่ไม่ได้เติม s/es

คำกริยารูปเอกพจน์ กับคำนามเอกพจน์ เช่น

  • Tim walks to school every day.

คำกริยารูปพหูพจน์ กับคำนามพหูพจน์ เช่น

  • My friends walk to school every day.

ข้อควรระวัง

  • คำนามเอกพจน์ คือคำนามที่ไม่ได้เติม s/es เช่น student, cat, table
  • คำนามพหูพจน์ คือคำนามที่เติม s/es เช่น students, cats, tables
  • คำกริยาเอกพจน์ คือคำกริยาที่เติม s/es เช่น eats, walks, goes
  • คำกริยาพหูพจน์ คือคำกริยาที่ไม่ได้เติม s/es เช่น eat, walk, go

*** ถ้าหากเราจะต้องใช้คำนามเอกพจน์กับคำกริยาเอกพจน์ และใช้คำนามพหูพจน์กับคำกริยาพหูพจน์

หรือถ้าจะจำแบบง่ายๆก็คือ เราจะเติม s/es คำนามและคำกริยาสลับกัน ถ้าคำนามเติม s/es คำกริยาก็ไม่ต้องเติม แต่ถ้าคำนามไม่ได้เติม s/es คำกริยาก็จะต้องเติมแทน ***

ตัวอย่างเช่น

  • My cat eats very fast. แมวของฉันกินเร็วมาก
  • My cats eat very fast. บรรดาแมวๆของฉันนั้นกินเร็วมาก

(จริงๆแล้ว คำนามพหูพจน์บางคำก็ไม่ได้ลงท้ายด้วย s/es หลักการนี้ใช้เพื่อให้จำได้ง่ายเท่านั้น)

2.หลักการเติม s และ es หลังคำกริยา

การใช้คำกริยารูปเอกพจน์ เราจะต้องเติม s หรือ es หลังคำกริยา ซึ่งจะมีหลักการทั้งหมด 5ข้อดังนี้

2.1 คำกริยาส่วนใหญ่ให้เติม s ต่อท้ายได้เลย

คำกริยาส่วนใหญ่ เมื่อใช้เป็นรูปเอกพจน์ ให้เติม s ต่อท้ายได้เลย

ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์                 พหูพจน์               ความหมาย

Comes                         Come                           มา

Eats                             Eat                               กิน

Loves                           Love                            รัก

Runs                            Run                              วิ่ง

Walks                           Walk                            เดิน

2.2 คำกริยาที่ลงท้ายด้วย ch, ss, sh, x หรือ zz ให้เติม es

คำกริยาที่ลงท้ายด้วย ch, ss, sh, x หรือ zz เมื่อใช้เป็นรูปเอกพจน์ ให้เติม es ต่อท้าย

ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์                 พหูพจน์                 ความหมาย

Watches                      Watch                          ดู

Kisses                          Kiss                             จูบ

Washes                        Wash                           ล้าง, ซัก

Fixes                            Fix                                ซ่อม, ติด

Buzzes                         Buzz                            ร้องเสียงหึ่ง

2.3 คำกริยาที่ลงท้ายด้วย o ให้เติม es

คำกริยาที่ลงท้ายด้วย o เมื่อใช้เป็นรูปเอกพจน์ ให้เติม es ต่อท้าย

ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์                 พหูพจน์                 ความหมาย

Does                            Do                                ทำ

Goes                            Go                               ไป

2.4 คำกริยาที่ลงท้ายด้วย y ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วค่อยเติม es

คำกริยาที่ลงท้ายด้วย y เมื่อใช้เป็นรูปเอกพจน์ ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es ต่อท้าย

ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์                 พหูพจน์                 ความหมาย

Cries                            Cry                               ร้องไห้

Flies                             Fly                                บิน

Hurries                         Hurry                           รีบเร่ง

Studies                         Study                           เรียน

Replies                        Reply                           ตอบ

แต่ถ้าหน้า y เป็นสระ (a, e, i, o, u) ให้เติม s แทน es

ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์                 พหูพจน์                 ความหมาย

Annoys                         Annoy                          ทำให้รำคาญ

Buys                            Buy                              ซื้อ

Enjoys                          Enjoy                           เพลิดเพลิน, สนุก

Pays                            Pay                              จ่าย

Plays                            Play                             เล่น

2.5 คำกริยาบางคำจะมีรูปเอกพจน์เฉพาะตัว

ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์                 พหูพจน์                 ความหมาย

Is                                 Are, Be                        เป็น, อยู่, คือ

Has                              Have                            มี

เป็นยังไงบ้างคะเพื่อนๆ หลังจากได้เรียนรู้หลักไวยากรณ์เรื่องการเติม s และ es หลังคำกริยา หวังว่าเพื่อนๆก็คงจะเข้าใจและสามารถนำไปใช้ในการทำข้อสอบได้ถูกต้องมากขึ้นแล้วนะคะ และถ้าหากว่าเพื่อนคนไหนสนใจคอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวแบบออนไลน์ ท่านสามารถติดต่อเพื่อขอรับคำแนะนำการลงทะเบียนเรียนจากเราได้แล้วตั้งแต่วันนี้ คลิกที่นี่ ค่ะ