อาการบาดเจ็บ ภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไรบ้าง?
ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนในโลก การ “บาดเจ็บ” ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ทั้งจากอุบัติเหตุ การเล่นกีฬา หรือเหตุไม่คาดฝันต่าง ๆ ซึ่งอาการบาดเจ็บมีอยู่หลากหลายรูปแบบ และในภาษาอังกฤษก็มีคำศัพท์เฉพาะที่ใช้เรียกแต่ละอาการแตกต่างกันไป
รวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บที่ควรรู้
ในบทความนี้ Engcouncil สถาบันสอนภาษาอังกฤษออนไลน์สำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะภาษาอย่างจริงจัง จะพาเพื่อน ๆ มารู้จักกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับ อาการบาดเจ็บต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคำพื้นฐานที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน หรือคำที่อาจจำเป็นเมื่อต้องพูดคุยกับคุณหมอ เราคัดคำที่ จำเป็น ใช้งานได้จริง และเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังเรียนภาษาอังกฤษทุกระดับ
ศัพท์อังกฤษน่ารู้ของอาการบาดเจ็บ
- Accident (noun) – อุบัติเหตุ
- Bite (noun) – แผลโดนกัด (แผลที่โดนกัดด้วยคมเขี้ยวของสัตว์หรือแมลง)
- Black eye (noun) – ตาเขียวช้ำ
- Break (noun) – แผลกระดูกหัก
- Bruise (noun) – แผลฟกช้ำ
- Wound (noun) – บาดแผล (ในภาษาอังกฤษ จะใช้กับการบาดเจ็บที่เกิดกับร่างกายโดยเฉพาะที่ทำให้ผิวหนังหรือเนื้อเสียหายอย่างร้ายแรง)
- Scrape (noun) – แผลถลอก
- Sprain (noun) – อาการเคล็ดขัดยอก/ แพลง
- Fracture (noun) – ร้าว
** Note : นอกจากนี้ยังมีอาการบาดเจ็บอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในกลุ่มนี้ด้วย เช่น Stress fracture (noun) – อาการกระดูกร้าวที่เกิดจากการบาดเจ็บบริเวณเดิมซ้ำ ๆ, Compound fracture (noun) – กระดูกร้าวหรือหักที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเยื่ออ่อนฉีกขาดหรือมีแผลเปิด
- Bump (noun) – แผลนูน
- Lesion (noun) – รอยโรค (เป็นศัพท์ทางการแพทย์หมายถึงเนื้อเยื่อที่ผิดปกติที่พบในสิ่งมีชีวิต มักจะเกิดจากการบาดเจ็บหรือโรค)
- Rupture (noun) – แผลจากอวัยวะภายในฉีกขาด (การบาดเจ็บรุนแรงที่ทำให้อวัยวะภายในหรือเนื้อเยื่ออ่อนแตกหรือฉีกขาดกะทันหัน)
- Burn (noun) – แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือโดนกรด (แผลไฟไหม้มีหลายระดับ ดังนี้
- First-degree burn (noun) – แผลไฟไหม้ระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นแผลจากการไหม้เล็กน้อยที่ส่งผลแค่บรเวณผิวหนังชั้นนอกเท่านั้น
- Second-degree burn (noun) – แผลไฟไหม้ระดับสอง ซึ่งส่งผลต่อชั้นผิวหนังชั้นที่หนึ่งและชั้นที่สอง และปรากฏเป็นผิวหนังสีแดง แผลพุพอง แผลอาจบวมและเจ็บปวดมาก
- Third-degree burn (noun) – แผลไฟไหม้ระดับสาม ซึ่งเป็นแผลไหม้ลึกและรุนแรงที่เกิดจากการสัมผัสกับความร้อน รังสี หรือสารเคมีที่ทำลายทั้งผิวหนังชั้นนอกและชั้นหนังแท้
- Hobble (noun) – อาการเดินกะเผลก
- Pull (noun) – อาการที่เอ็นหรือกล้ามเนื้อมีความตึงรุนแรง
- Scab (noun) – แผลตกสะเก็ด
- Scald (noun) – แผลถูกลวก
- Scar (noun) – รอยแผลเป็น
- Cut (noun) – แผลโดนบาด
- Scratch (noun) – แผลถลอก
- Sting (noun) – แผลจากแมลงกัด/ แมลงต่อย
- Strain (noun) – อาการปวดตึง ๆ
- Concussion (noun) – อาการวูบ หมดสติ จากการถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง
- Contusion (noun) – อาการห้อเลือด (เป็นอาการบาดเจ็บที่มองเห็นเป็นแผลฟกช้ำและส่งผลให้เจ็บปวดมากแต่ แต่ไม่มีแผลฉกรรจ์ภายนอกให้เห็น)
- Whiplash injury (noun) – อาการบาดเจ็บบริเวณต้นคอ (เป็นอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อบริเวณต้นคอที่เกิดจากแรงบิดหรือสะบัดของศีรษะในทิศทางไปด้านหลังและด้านหน้าอย่างรวดเร็ว ในกรณี เช่น ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เล่นเครื่องเล่นที่มีการกระแทกบริเวณคอ เป็นต้น)
- Pinch (noun) – แผลจากการโดนหยิก
- Cauliflower ear (noun) – หูกะหล่ำดอก (เป็นอาการบาดเจ็บที่มักพบในหมู่ของนักมวย เกิดจากกระดูกอ่อนที่เสียหายและการหักของหู)
- Ulcer (noun) – แผลมีหนอง
คำถาม-คำตอบที่พบบ่อยเกี่ยวกับคำศัพท์อาการบาดเจ็บ
- “Wound” และ “Cut” มีความหมายต่างกันอย่างไร?
ทั้งสองคำแปลว่า “บาดแผล” ได้ค่ะ แต่ “Wound” มักจะใช้กับบาดแผลที่รุนแรงกว่าและอาจเกิดจากการบาดเจ็บที่ทำให้ผิวหนังหรือเนื้อเยื่อเสียหายมาก เช่น แผลที่เกิดจากอุบัติเหตุร้ายแรงค่ะ ส่วน “Cut” มักใช้กับแผลโดนบาดที่ไม่รุนแรงมากนัก เช่น แผลโดนมีดบาดค่ะ
- “Bruise” และ “Contusion” มีความหมายต่างกันไหม?
ทั้งสองคำมีความหมายใกล้เคียงกันค่ะ โดย “Bruise” คือ “แผลฟกช้ำ” ที่เราใช้กันทั่วไปในชีวิตประจำวันค่ะ ส่วน “Contusion” เป็นคำศัพท์ทางการแพทย์ที่ใช้เรียกอาการ “ห้อเลือด” ซึ่งเป็นอาการฟกช้ำที่อาจรุนแรงกว่า และมักใช้ในบริบททางการแพทย์หรือการวินิจฉัยอาการค่ะ
- แผลไฟไหม้ระดับที่ 1, 2 และ 3 ในภาษาอังกฤษเรียกว่าอย่างไร?
แผลไฟไหม้มีคำเรียกที่เฉพาะเจาะจงตามระดับความรุนแรงค่ะ โดย “แผลไฟไหม้ระดับ 1” เรียกว่า First-degree burn ค่ะ ส่วน “ระดับ 2” เรียกว่า Second-degree burn และ “ระดับ 3” ซึ่งเป็นแผลที่ลึกและรุนแรงที่สุดจะเรียกว่า Third-degree burn ค่ะ
- มีคำศัพท์ใดที่ใช้บอกอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกายหนักๆ?
หากมีอาการปวดกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกายหนักๆ สามารถใช้คำว่า “Strain” ได้ค่ะ ซึ่งหมายถึงอาการปวดตึงของกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นจากการใช้งานหนัก ส่วนคำว่า “Sprain” จะใช้กับอาการ “เคล็ดขัดยอก” หรือ “แพลง” ที่มักเกิดขึ้นกับข้อต่อและเอ็นรอบข้อต่อค่ะ
เปลี่ยนการเรียนรู้ภาษาอังกฤษให้เป็นเรื่องง่าย กับคอร์สเรียนออนไลน์จาก ENGCOUNCIL
หมดข้ออ้างแล้วสำหรับคำว่าไม่มีเวลา เพราะที่ ENGCOUNCIL เราพร้อมเสิร์ฟคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ให้กับคุณแบบไม่จำกัดสถานที่ ไม่จำกัดเวลา แถมยังได้เรียนสดตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติและเจ้าของภาษา ที่สำคัญ คือ คอร์สของเรานั้นครอบคลุมทั้งภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน คอร์สสำหรับการสื่อสารเพื่อการทำธุรกิจ ตลอดไปจนถึงการเตรียมตัวเพื่อสอบวัดระดับความรู้ทางภาษาต่าง ๆ ไม่ว่าคุณจะต้องการเรียนรู้ภาษาอังกฤษไปเพื่อวัตถุประสงค์ใด เราขอรับรองว่าจะช่วยให้คุณสามารถบรรลุเป้าหมายนั้นได้อย่างแน่นอน