หลักการใช้ Linking Verb

Linking verb คือ กริยาเชื่อม ทำหน้าที่เชื่อมประธานกับคุณศัพท์ เพื่อบอกสภาวะ ไม่ใช่บอกการกระทำ เป็น คำกริยาที่บอกสภาพของประธานเป็น Verb ที่มักตามมาด้วย Adjective นอกจากจะมี verb to be แล้ว ยังมี Verb ตัวอื่นที่สามารถใช้แทน Verb to be ได้เพื่อความหมายที่ดีขึ้นได้อีกด้วย

  • Linking แปลว่า เชื่อม
  • Verb แปลว่า กริยา

Linking verb ได้แก่

  1. be (is am are/ was were been) แปลว่า เป็น / คือ
  2. appear แปลว่า ดูเหมือน / ปรากฎ
  3. become แปลว่า เริ่ม / กลาย
  4. come แปลว่า เป็น, กลายเป็น / มา
  5. feel แปลว่า รู้สึก / คลำ
  6. get แปลว่า เริ่ม / ได้รับ
  7. go แปลว่า เกิด / ไป
  8. grow แปลว่า เริ่ม / โต, ปลูก
  9. look แปลว่า ดูเหมือน / มอง
  10. remain แปลว่า ยังคง / อยู่
  11. seem แปลว่า ดูเหมือน
  12. smell แปลว่า ส่งกลิ่น / ดม
  13. sound แปลว่า ดูเหมือน / ส่งเสียง
  14. stay แปลว่า ยังคง / พัก
  15. taste แปลว่า มีรส/ ชิม
  16. turn แปลว่า กลาย / หมุน

*** คำแปลตัวหน้า หมายถึง ถ้าทำหน้าที่เป็น Linking verb

*** คำแปลตัวหลัง หมายถึง ถ้าทำหน้าที่เป็นกริยาหลัก หรือกริยาแท้

หลักการใช้ Linking verb

Linking verb ก็คือ คำกริยาที่ทำหน้าที่เชื่อมประธานของประโยค กับ คำคุณศัพท์ เพื่อบ่งบอกสภาวะของประธานในประโยคนั้นๆ ซึ่งคำที่เรารู้จักกันดีก็คือ Verb to be

ตัวอย่างเช่น

  • She is happy. หล่อนมีความสุข
  • You are beautiful. เธอสวย

*** Linking Verb  ส่วนใหญ่ทำหน้าที่ได้ทั้ง กริยาแท้ และกริยาเชื่อม

มีอยู่สาม 3 คำ คือ be , become, seem ที่เป็นได้เฉพาะกริยาเชื่อม เพราะบอกได้แค่สภาวะ แต่ไม่สามารถบอกการกระทำได้

กริยาแท้จะแสดงการกระทำ ถ้าทำหน้าที่เป็นกริยาเชื่อมจะแสดงสภาวะ

ตัวอย่างคำกริยาที่เป็นได้ทั้งกริยาแท้ และกริยาเชื่อม เช่น

  • I come home every Sunday. ฉันมาบ้านทุกวันอาทิตย์ เป็นกริยาแท้ เพราะ come บอกการกระทำ
  • My dreams come true. ฝันของฉันกลายเป็นจริง เป็นกริยาเชื่อม เพราะ come บอกสภาวะ
  • I’m feeling my doll. ฉันกำลังจับตุ๊กตาของฉัน เป็นกริยาแท้ เพราะ feel บอกการกระทำ
  • I’m feeling cold. ฉันรู้สึกหนาว เป็นกริยาเชื่อม เพราะ feel บอกสภาวะ
  • They smell flowers. พวกเขาทั้งหลายดมดอกไม้ เป็นกริยาแท้ เพราะ smell บอกการกระทำ
  • The flowers smell good. ดอกไม้ส่งกลิ่นหอม เป็นกริยาเชื่อม เพราะ smell บอกสภาวะ

Linking Verb กับ Verb to be 

ความแตกต่างของ Linking verb กับ Verb to be

Linking verb = ชั่วคราว 

Verb to be = ถาวร

*** ถ้าเราใช้ Verb to be เมื่อไหร่ จะเป็นการบอกนิสัยถาวรของคนๆนั้น แต่ถ้าใช้ linking verb จะบอกว่าพฤติกรรมนั้นๆเกิดชั่วคราว

ตัวอย่างเช่น

  • She is happy. หล่อนมีความสุข นี่คือตัวตนของเธอ เธอมีความสุขตลอด
  • She looks happy today. หล่อนดูเหมือนจะมีความสุขวันนี้
  • He is lazy. เขาขี้เกียจ ไม่เคยทำอะไรเลย เป็นคนขี้เกียจ
  • He sounds lazy. เขาดูเหมือนจะขี้เกียจ ปกติขยันขันแข็ง แต่ทำไมตอนนี้เหมือนจะไม่ยากทำอะไร
  • She feels cold. หล่อนรู้สึกหนาว
  • She is cold. She never talks to anyone. หล่อนเย็นชา หล่อนไม่เคยพูดกับใครเลย

เพื่อนๆจะเห็นแล้วว่าการใช้ Linking verb นั่นใช้อย่างไรในบริบทต่างๆ อาจจะใช้ในภาษาพูดหรือภาษาเขียนก็ได้ อยากจะแนะนำให้เพื่อนๆ ลองฝึกใช้ได้จริงด้วยค่ะ เพื่อจะใช้ได้อย่างคล่องแคล่วและถูกต้องตามบริบท และถ้าหากเพื่อนๆคนไหน สนใจคอร์สเรียนภาษาอังกฤษกับครูต่างชาติแบบสดตัวต่อตัวออนไลน์ สามารถติดต่อเพื่อขอรับคำแนะนำการลงทะเบียนเรียนจากเราได้แล้วตั้งแต่วันนี้ค่ะ