คำที่แสดงความขัดแย้งในภาษาอังกฤษ หรือ Contrast Words คืออะไร? วันนี้เราจะมาแชร์ความรู้เกี่ยวกับ Contrast Words หรือคำที่ใช้แสดงความขัดแย้งในภาษาอังกฤษ มีมากว่า but ซึ่งหลายๆคนคงรู้จักคำว่า “but” ในความหมายว่า “แต่” โดยเอาไว้ทำหน้าที่คำเชื่อมประโยคที่มีความหมายในเชิงขัดแย้งกัน แต่จริง ๆ แล้วยังมีอีกหลากหลายคำที่มีความหมายว่า “แต่” แต่สามารถใช้คำอื่น ๆ ได้อีกเยอะเลยค่ะ เรามาดูกันดีกว่าว่ามีคำว่าอะไรบ้างค่ะ !!
1.But มีความหมายว่า “แต่”
เป็นคำที่ใช้เชื่อมประโยค วลี หรือคำที่มีใจความขัดแย้งกัน หรือแตกต่างกัน
ตัวอย่างประโยค
- I love you, but you don’t love me. ฉันรักคุณ แต่ คุณไม่ได้รักฉัน
- He is very handsome but not very kind. เขาหล่อมาก แต่ว่า เขาไม่ใจดีเลย
2.But มีความหมายว่า “ยกเว้น”
ซึ่งโดยปกติเรามักจะเจอ but ตามหลังด้วยคำเหล่านี้ : all, everything, everyone, everybody, nothing, no one และ nobody
ตัวอย่างประโยค
- Nobody but me can eat spicy foods. นอกจากฉันแล้ว ไม่มีใครเลยที่ทานอาหารรสเผ็ดได้
- Everyone but you like to play football. ทุกคนยกเว้นคุณ ชอบเล่นฟุตบอลหมดเลย
3.All but มีความหมายว่า “เกือบจะ”
คำนี้ถือเป็น สำนวน(idiom) แปลว่า almost completely หรือ nearly (เกือบจะ,ใกล้จะ) และด้วยความเป็นสำนวน จึงทำให้ความหมายแตกต่างออกไปจากเดิม
*** สังเกตว่า ถ้าอ่านแล้วแปลตรงตัว คือจะสื่อความหมายผิดทันที ***
ตัวอย่างประโยค
- The horse was all but killed by a hunter. ม้าเกือบจะโดนนายพรานฆ่าตายแล้ว
- Our project has all but completed. โครงการของเราเกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว
*** สังเกตว่า คำว่า all but สามารถใช้ได้กับทุก Tense เลยนะครับ แต่อย่าลืมเรื่องกฎของแต่ละ Tense ด้วยนะจ้ะ ***
อีกหนึ่งประเด็นคือ เราจะต้องเขียนเป็น but หรือ ,but แบบมีคอมม่ากันแน่ วันนี้ทางแอดมินมีคำตอบมาให้ค่ะ
- ใช้ but เมื่อมีหนึ่งประโยค เป็น ประโยคที่ไม่มีใจความสมบูรณ์(dependent clause)
ตัวอย่างเช่น
- She is so beautiful but stingy. หล่อนสวยนะแต่ขี้เหนียว
จะเห็นว่า She is so beautiful เป็นประโยคเต็ม แต่ประโยคที่มาเชื่อม มีแค่ stingy ตัวเดียวเลย แบบนี้ถือว่าเป็น ประโยคที่ไม่มีใจความสมบูรณ์(dependent clause) กรณีนี้ เราจึงใช้แค่ but อย่างเดียว ไม่ต้องมีคอมม่า
11 คำ ที่สามารถใช้แทน but ได้เลย มาดูกันเลยค่ะ
1.Although
แปลว่า “แม้ว่า” ซึ่งจะมีความหมายแสดงให้รู้สึกถึงความขัดแย้งกันของทั้งสองประโยค เลยไม่จำเป็นต้องใส่ but(แต่) อีกจึงทำให้ในกรณีนี้ เราสามารถละคำว่า but ทิ้งไปได้เลย
ตัวอย่างเช่น
- Although she is very poor, she has not lost her dignity. ถึงแม้หล่อนจะยากจนอย่างมาก แต่หล่อนก็ไม่เคยยอมเสียศักดิ์ศรี
2.Though
แปลว่า “แต่” ได้ด้วย
เมื่อเจอคำว่า Although ก็ต้องรู้จักกับคำว่า Though ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นคำเชื่อม ใช้เชื่อมข้อคิดเห็นหรือข้อเท็จจริงที่มีใจความขัดกัน หรือไม่สอดคล้องกัน แปลว่า “แม้ว่า” แต่ในบางบริบท สามารถใช้แทนความหมายว่า “แต่” ได้อีกด้วย
ตัวอย่างเช่น
- Her birthday is in February, though I don’t know the date. วันเกิดหล่อนอยู่ในเดือนกุมภาพันธ์นะ แต่ฉันไม่รู้วันที่น่ะ
- I think he likes this one. I am not sure though. (วางไว้ท้ายสุดของประโยคก็ได้) ฉันคิดว่าเขาชอบอันนี้นะ แต่ฉันไม่แน่ใจเหมือนกัน
3.Except
แปลว่า “ยกเว้น”
ตัวอย่างเช่น
- All of us speak English except her. เราทุกคนพูดภาษาอังกฤษหมด ยกเว้นหล่อนคนนั้น
- Nevertheless แปลว่า “ถึงอย่างนั้น / อย่างไรก็ตาม”
ตัวอย่างเช่น
- Many startups fail. Nevertheless, people continue to start new businesses. มีธุรกิจสตาร์ทอัพหลายแห่งล้มเหลว แต่ถึงอย่างนั้น ผู้คนก็ยังเริ่มทำธุรกิจใหม่ๆอยู่เรื่อย ๆ
5.On the other hand
แปลว่า “ในทางกลับกัน / ในอีกด้านหนึ่ง” ใช้เพื่อแสดงความขัดแย้งในด้านความหมาย ระหว่างประโยคที่พูดไปก่อนหน้า และประโยคที่กำลังจะพูดต่อไปนี้ (คำนี้ใช้ค่อนข้างบ่อย)
ตัวอย่างเช่น
- John loves English. On the other hand, he hates math. คุณจอห์นรักภาษาอังกฤษ แต่ทางกลับกัน เขาเกลียดคณิตศาสตร์
- Your computer is very fast. On the other hand, mine is quite slow. คอมพิวเตอร์ของคุณเร็วมากเลย กลับกัน คอมพิวเตอร์ของผมนี่ค่อนข้างช้า
6.Still
แปลว่า “ถึงอย่างนั้น / ก็ยัง”
ปกติคำว่า still แปลว่า “ยังคง” แต่เมื่ออยู่ในบางบริบท สามารถใช้เพื่อสื่อความหมายว่า “ถึงอย่างนั้น / ก็ยัง” ได้อีกด้วย
ตัวอย่างเช่น
- My job is very challenging. Still, I am lucky that I have a good support from my family. อาชีพของฉันที่ทำอยู่ มันท้าทายมากเลย แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังโชคดีที่การสนับสนุนที่ดีจากครอบครัว
- I have told you about it twice. Still, you do not seem to completely understand it. ฉันบอกเรื่องนี้กับคุณไปสองรอบแล้วนะ แต่คุณก็ยังดูไม่เข้าใจมันจริงๆ
7.Yet
แปลว่า “แต่” ได้ด้วย ในความหมายนี้จะเหมือนกับคำว่า but แปลว่า “แต่” หรือ “ถึงอย่างนั้น” ทำหน้าที่เชื่อมประโยคที่มีใจความขัดกัน ** ไม่ได้มีความหมายว่า “ยัง” อย่างเดียว **
ตัวอย่างเช่น
- I don’t like seafood, yet I have to eat them today at this restaurant. ฉันไม่ชอบอาหารทะเล แต่วันนี้ฉันต้องกินที่ภัตตาคารแห่งนี้
- I am not student anymore, yet I still study almost every day. ฉันไม่ใช่นักเรียนแล้ว แต่ฉันยังคงต้องเรียนอยู่แทบทุกวัน
8.In contrast
แปลว่า “ช่างตรงข้ามกับ” คำนี้ใช้ง่ายๆ ความหมายตรงตัวครับ กับคำว่า “Contrast” ที่แปลว่า ย้อนแย้ง / ขัดแย้ง / ตรงข้าม
ตัวอย่างเช่น
- His cat is very cute in contrast with mine. แมวของเขาน่ารักเหลือเกิน ช่างตรงข้ามกับแมวของฉัน
- He looked quite happy in contrast with those around him. เขาดูเหมือนจะมีความสุขนะ ช่างแตกต่างกับคนอื่นรอบๆ ตัวเขาเลย
9.On the contrary
แปลว่า “ในทางตรงกันข้าม” คำว่า contrary แปลว่า “ความขัดกัน/ความตรงกันข้าม”
ตัวอย่างเช่น
- You are young. I, on the contrary, I am very old. คุณดูยังวัยละอ่อนอยู่เลย แต่ในทางตรงกันข้าม ผมสิแก่มากแล้ว
- Just because I’m alone doesn’t mean I’m lonely. On the contrary, I enjoy being by myself. แค่ฉันอยู่คนเดียวไม่ได้แปลว่าฉันเหงา ในทางกลับกัน ฉันมีความสุขกับการเป็นตัวเองมาก
10.Whereas
แปลว่า “ในทางตรงกันข้าม / ในขณะที่”
ตัวอย่างเช่น
- I am tall, whereas my siblings are short. ฉันตัวสูง ในขณะที่พี่น้องฉันตัวเตี้ยหมดเลย
- A triangle has three sides, whereas a square has four. สามเหลี่ยมมีสามด้าน ในขณะที่สี่เหลี่ยมมีสี่ด้าน
11.However
แปลว่า “แต่อย่างไรก็ตาม / แต่ถึงกระนั้น”
ตัวอย่างเช่น
- I like the dress; however, it’s available in just one color. ฉันชอบเสื้อเดรสนะ แต่ถึงกระนั้น มันมีให้เลือกแค่สีเดียวเอง
- The car was quite old and outdated. However, it managed to take us home safely. รถคันนี้ค่อนข้างเก่าและตกรุ่นไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม มันสามารถพาเรากลับมาบ้านได้อย่างปลอดภัย
เป็นไงบ้างคะเพื่อนๆ วันนี้ได้เรียนรู้คำหลากหลายเลย นอกเหนือจากคำว่า But ได้ทริคการเรียนเพิ่มเติม ประโยคตัวอย่างในการใช้คำศัพท์แต่ละคำ เพื่อนสามารถนำไปปรับใช้กันได้เลยนะคะ และถ้าหากว่าเพื่อนคนไหนสนใจคอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่สอนเกี่ยวกับแกรมม่าต่างๆ เราขอแนะนำ คอร์สภาษาอังกฤษพื้นฐาน จะเป็นการเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวออนไลน์ โดยสามารถติดต่อเพื่อขอรับคำแนะนำการลงทะเบียนเรียนจากเราได้แล้วตั้งแต่วันนี้