หลักการใช้ So และ Such ในภาษาอังกฤษ

สำหรับเพื่อนๆที่สงสัยว่าจะใช้ So หรือ Such ดี เพราะความหมายเหมือนกัน

วันนี้สถาบันสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ Engcouncil จะมานำเสนอ หลักการใช้ So และ Such ในภาษาอังกฤษมาแชร์ให้เพื่อนๆได้ทราบกัน โดยเราสามารถพบเจอ So และ Such ได้บ่อยครั้งในการใช้ภาษาอังกฤษ ทั้ง 2 คำ มีความหมายที่เหมือนกัน แต่ก็มีรูปแบบการใช้ที่แตกต่างกัน เรามาดูกันเลยดีกว่าค่ะว่า โครงสร้างประโยค มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง !!

So และ Such มีความหมายเหมือนกันคือ “มาก” หรือ “อย่างมาก”

ถึงแม้จะมีความหมายเหมือนกัน แต่มีวิธีการใช้ที่แตกต่างกัน

So และ Such ใช้ในประโยคที่ต้องการเน้นย้ำว่ามาก ทั้งในด้านดี และไม่ดี

***So ยังมีความหมายว่า “ดังนั้น” ด้วย แต่ในบทเรียนนี้จะพูดถึงเฉพาะความหมายว่า “มาก”

ความแตกต่างในการใช้งาน

วิธีการใช้ So และ Such มีความแตกต่างกันที่โครงสร้างของประโยคเท่านั้น

โครงสร้างประโยคของ So และ Such

So + adjective

Such + a/an + adjective + noun

ในกรณีที่เลือกใช้ So จะต้องตามหลัง So ด้วย adjective

ในกรณีที่เลือกใช้ Such จะต้องตามด้วย  a/an ก่อน adjective และคำนาม (noun)

*** Adjective คือคำใช้อธิบายหรือขยายคำนาม หรือสรรพนาม ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น บอกขนาด เล็ก ใหญ่ สวย ดี แย่

ตัวอย่างเช่น

  • This is a big dog. นี่คือสุนัขตัวใหญ่

จากประโยคข้างต้น big (ตัวใหญ่) เป็น adjective เพราะใช้อธิบายสุนัขซึ่งเป็นคำนาม ว่าตัวใหญ่ อ่านเพิ่มเติม เรื่อง adjectives (คุณศัพท์)

ตัวอย่างประโยค ของ So

  • She is so beautiful. เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมาก
  • The fried chicken is so delicious. ไก่ทอดอร่อยมากเลย
  • He’s so lazy. เขาเป็นคนขี้เกียจมาก

ตัวอย่างประโยค ของ Such

  • She is such a beautiful girl. เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมาก
  • He’s such a lazy guy. เขาเป็นคนขี้เกียจมาก
  • They have such a big house. พวกเขามีบ้านหลังใหญ่มาก

So และ Such กับ Very ต่างกันอย่างไร

Very เป็นคำที่เรารู้จักกันดีว่ามีความหมายว่า “มาก” เหมือนกันกับ So และ Such

มีความแตกต่างกันคือ So และ Such เป็นคำที่ไม่เป็นทางการของคำว่า Very ซึ่งมักใช้ในประโยคเป็นภาษาไม่เป็นทางการ หรือใช้ในการพูดมากกว่าการเขียน

Very กับ So มีโครงสร้างประโยคที่เหมือนกัน (Very + adjective) ถ้าเป็นภาษาเขียนหรือใช้เป็นทางการ นิยมใช้ very มากกว่า

Very ยังสามารถใช้แทน so ในประโยคได้เลย

ตัวอย่างเช่น

  • That boy is so smart.
  • That boy is very smart.

เด็กชายคนนั้นมีความฉลาดมาก

So… that และ Such… that

นอกจากนี้แล้วยังมีการใช้  So… that/Such… that หมายถึง “มากเสียจน…”

โครงสร้างประโยคคือ So + adjective + that

ตัวอย่างประโยค  so… that และ such… that

  • This movie was so funny that I can’t stop laughing. หนังสมุกมากเสียจนฉันหยุดหัวเราะไม่ได้
  • The cake was so delicious that I can’t stop eating. เค้กอร่อยมากเสียจนหยุดกินไม่ได้
  • She is such a beautiful girl that I can’t take my eyes off her. เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากเสียจนฉันหยุดมองไม่ได้

So that มีความหมายเหมือน in order that/In order to หมายถึง “เพื่อที่จะ…”

ใช้ในการเชื่อมประโยคเข้าด้วยกันเพื่อบอกจุดประสงค์ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าทำเพื่ออะไร

*** So that เขียนติดกัน ไม่มีอะไรมาคั่นกลาง

มีโครงสร้างประโยคคือ

  • So that + subject + verb
  • In order that + subject + verb
  • In order to + verb

ตัวอย่างประโยค so that และ In order that

  • I study very hard so that I can pass the exam.
  • I study very hard in order that I can pass the exam.

ฉันเรียนหนักมากเพื่อที่จะได้สอบผ่าน

  • I will go to South Korea so that I can learn Korean.
  • I will go to South Korea in order to learn Korean.

ฉันจะไปเกาหลีใต้เพื่อที่จะเรียนภาษาเกาหลี

เป็นอย่างไรบ้างคะ การใช้ So และ Such เพื่อนๆอาจจะคิดว่ามันเหมือนกันแต่จริง ๆแล้วมันมีความแตกต่างกันอยู่ ลองอ่านดูกันดีดีค่ะ และอย่าลืมขยันทบทวน รวมทั้งลองนำไปใช้กันดูนะคะ และถ้าหากว่าเพื่อนคนไหนสนใจคอร์สเรียนภาษาอังกฤษกับครูต่างชาติและเจ้าของภาษาซึ่งเป็นการเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวแบบออนไลน์ ราคาไม่แพง เรียนที่ไหนก็ได้ และสามารถเลือกเวลาเรียนเองได้ สามารถติดต่อเพื่อขอรับคำแนะนำ หรือทดสอบวัดระดับเพื่อเลือกคอร์สเรียนจากเราได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ที่นี่ ค่ะ

[/ux_text]
หลักการใช้ So และ Such ในภาษาอังกฤษ