หลักการใช้ Have Has Had เข้าใจง่าย ใช้ได้จริงในทุกประโยค
สถาบันสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ Engcouncil จะมาอธิบายวิธีใช้ Verb to Have ซึ่งเป็นหนึ่งในกริยาพื้นฐานสำคัญที่เจอบ่อยในภาษาอังกฤษ หลายคนยังสับสนระหว่าง have, has, had ว่าใช้ต่างกันอย่างไร บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและใช้งานได้ถูกต้องในทุกสถานการณ์
ทำไมต้องรู้หลักการใช้ Verb to Have?
Verb to Have เป็นกริยาที่มีหลายความหมายและทำหน้าที่ได้หลากหลาย ทั้งเป็นกริยาหลัก (มี, กิน) และกริยาช่วย (ใช้ใน Present Perfect และ Past Perfect) การเข้าใจหลักการใช้ Have, Has, Had อย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณพูดและเขียนภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
รูปของ Verb to have
Subject/Tenses |
Present Tenses |
Past Tenses |
Continuous Tenses |
I/You/We/They และประธานพหูพจน์อื่น ๆ |
have |
had |
having |
He/She/it และประธานเอกพจน์อื่น ๆ |
has |
had |
having |
** have ในความหมายว่า “มี” เป็น Stative verbs แสดงความเป็นเจ้าของ จะใช้ใน Continuous tenses ไม่ได้ (เติม -ing ไม่ได้) แต่ถ้าในความหมายว่า “กิน” เป็น Dynamic verbs สามารถใช้ในรูป -ing ได้
Verb to have นอกจากมีความหมายว่า “มี” แล้ว ยังใช้ในความหมายอื่น ๆ เช่น “กิน” ได้ด้วย อีกทั้งจัดอยู่ในกลุ่ม Primary auxiliary verbs คือ ทำหน้าที่เป็นได้ทั้งกริยาหลักและกริยาช่วย (เช่นเดียวกับ Verb to be และ Verb to do)
หลักการใช้ Verb to have
1.Verb to have ทำหน้าที่เป็นกริยาหลัก (Main Verbs)
Verb to have เมื่อทำหน้าที่เป็นกริยาหลักจะมีความหมายว่า “มี” และ “กิน”
Has ใช้กับ He/She/it และประธานเอกพจน์อื่น ๆ
Have ใช้กับ I/You/We/They และประธานพหูพจน์อื่น ๆ
Had เป็นรูปอดีตของ Have/Has ใช้ได้กับประธานทุกตัว
ตัวอย่าง
1 : I have a new job. (ฉันมีงานใหม่)
2 : The dog has a black tail. (หมามีหางสีดำ)
3 : Tom had a big house. (ทอมเคยมีบ้านหลังใหญ่)
4 : Mom and I have dinner at 7.00 pm. (แม่และฉันกินมื้อเย็นตอนหนึ่งทุ่ม)
นอกจากนี้ have/has got ก็มีความหมายว่า “มี” เช่นเดียวกัน เพียงแต่ have/has got เป็นการพูดแบบ British English ซึ่งพบในภาษาพูดมากว่าในภาษาเขียน เช่น
I have a new job. = I have got a new job. (ฉันมีงานใหม่)
Tom has a luxury car. = Tom has got a luxury car. (ทอมมีรถหรู)
1.1 have ในประโยคปฏิเสธ
I/You/We/They และประธานพหูพจน์อื่น ๆ + don’t have…
He/She/it และประธานเอกพจน์อื่น + doesn’t have…
ตัวอย่าง
1 : I don’t have any time. (ฉันไม่มีเวลาเลย)
2 : My boyfriend doesn’t have a car. (แฟนฉันไม่มีรถ)
1.2 have ในประโยคคำถาม
Yes/No Questions : Do + I/You/We/They และประธานพหูพจน์อื่น ๆ + have….?
Does + He/She/it และประธานเอกพจน์อื่น ๆ + have…?
Wh-Questions : What/When/Where/Who/How + do + I/you/we/they+ have…?
What/When/Where/Who/How + does + he/she/it + have…?
ตัวอย่าง
1 : Do you have any good books for studying English? (คุณมีหนังสือดี ๆ สำหรับเรียนภาษาอังกฤษบ้างไหม?)
2 : Does Nid have any brothers or sisters? (นิดมีพี่ชายน้องชายหรือพี่สาวน้องสาวบ้างไหม?)
3 : Where do you usually have lunch? (ปกติคุณทานมื้อกลางวันที่ไหน?)
2.Verb to have ทำหน้าที่เป็นกริยาช่วย (Auxiliary Verbs)
2.1. เป็นกริยาช่วยใน Perfect Tense
โครงสร้างประโยค Present Perfect Tense : Subject + have/has/had + V.3…
โครงสร้างประโยค Past Perfect Tense : Subject + had + V.3…
โครงสร้างประโยค Future Perfect Tense : Subject + will have + V.3…
ตัวอย่าง
1 : I have worked hard this week. (สัปดาห์นี้ฉันทำงานหนัก)
2 : She has been a teacher for over 20 years. (เธอเป็นครูมากว่า 20 ปี)
3 : Tom had read the book before he watched a film. (ทอมอ่านหนังสือก่อนที่เขาดูหนัง)
4 : We will have gone when you arrive. (พวกเราคงจะไปแล้วเมื่อคุณมาถึง)
เมื่อทำเป็นประโยคปฏิเสธสามารถใส่ not ตามหลัง Verb to have ได้เลย (have not = haven’t, has not = hasn’t, had not = hadn’t) ส่วน Future Perfect Tense เปลี่ยน will have เป็น won’t have
ตัวอย่าง
1 : We haven’t seen Tom. (พวกเราไม่เห็นทอม)
2 : She won’t have spoken to Mark. (เธอคงจะไม่พูดกับมาร์ก)
เมื่อทำเป็นประโยคคำถาม Yes/No Questions นำ Verb to have มาขึ้นต้นประโยค
ตัวอย่าง
1 : Have you washed your face today? (วันนี้คุณได้ล้างหน้าหรือเปล่า?)
2 : Has he met the manager? (เขาได้พบผู้จัดการหรือเปล่า?)
2.2. ใช้ have/has/had to ในความหมายว่า ต้อง
โครงสร้างประโยค : Subject + have/has/had to + V.1….
ตัวอย่าง
1 : Nida has to do it by herself. (นิดาต้องทำมันด้วยตัวเอง)
2 : I have to get up early. (ฉันต้องตื่นแต่เช้า)
2.3. ใช้ในประโยคที่แสดงถึงการกระทำที่ไม่ได้กระทำด้วยตัวเอง (Causative form) มี 2 ประเภท คือ
- Have someone do somethingให้ใครเป็นคนทำบางอย่างให้ผู้พูด
- โครงสร้างประโยค : Subject + have/has/had + ผู้กระทำ + V.1
ตัวอย่าง
1 : I have my son wash my car. (ฉันให้ลูกชายล้างรถของฉัน)
2 : Tom has his wife cook every day. (ทอมให้ภรรยาของเขาทำอาหารทุกวัน)
3 : They will have the painter paint their house. (พวกเขาจะให้ช่างทาสีมาทาสีบ้านของพวกเขา)
-
Have something doneให้ใครทำบางอย่างโดยไม่ได้พูดถึงตัวผู้กระทำ
โครงสร้างประโยค : Subject + have/has/had + สิ่งที่ถูกกระทำ + V.3
ตัวอย่าง
1 : I have my hair cut every three months. (ฉันตัดผมทุกสามเดือน: คนอื่นหรือช่างตัดผมเป็นคนตัด)
2 : He had his watch fixed. (เขาเอานาฬิกาไปซ่อมมา : คนอื่นหรือช่างเป็นคนซ่อม)
2.4. สำนวนที่ใช้ Verb to have ตามด้วย a + verb จะทำให้กริยานั้นกลายเป็นคำนาม และแปลความหมายตามคำกริยาที่ตามหลัง
ตัวอย่าง
1 : I want to have a rest. (ฉันต้องการพักผ่อน)
2 : He has a walk along the streets to kill time. (เขาเดินไปตามท้องถนนเพื่อฆ่าเวลา)
คำถาม-คำตอบที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใช้ Verb to have
1. เมื่อไรที่ควรใช้ ‘have’ และ ‘have got’ ในความหมายว่า “มี”?
ทั้ง ‘have’ และ ‘have got’ มีความหมายว่า “มี” เหมือนกัน แต่มีบริบทการใช้งานที่ต่างกันเล็กน้อย ‘Have’ เป็นคำที่ใช้ได้ทั่วไปทั้งในภาษาพูดและภาษาเขียน (American English) ส่วน ‘have got’ มักใช้ในการพูดแบบไม่เป็นทางการ (British English) ตัวอย่างเช่น “I have a car.” และ “I have got a car.” ทั้งสองประโยคนี้ใช้ได้และสื่อความหมายเดียวกัน
2. ทำไมบางครั้ง ‘have’ ถึงไม่สามารถใช้ใน Continuous Tenses (เติม -ing) ได้?
‘Have’ เป็นได้ทั้ง Stative verbs และ Dynamic verbs ถ้า ‘have’ ทำหน้าที่เป็น Stative verb ในความหมายว่า “มี” หรือ “เป็นเจ้าของ” เช่น “I have a car.” จะไม่สามารถใช้ในรูป Continuous ได้ค่ะ (ไม่พูดว่า “I am having a car.”) แต่ถ้า ‘have’ ทำหน้าที่เป็น Dynamic verb ในความหมายว่า “กิน” “ทำ” หรือ “ประสบการณ์” เช่น “I am having dinner.” (ฉันกำลังกินมื้อเย็น) จะสามารถใช้ในรูป Continuous ได้ค่ะ
3. การใช้ ‘have to’ และ ‘must’ มีความแตกต่างกันอย่างไร ในเมื่อทั้งสองคำหมายถึง “ต้อง”?
ทั้ง ‘have to’ และ ‘must’ ใช้ในความหมายว่า “ต้อง” ได้ แต่ ‘have to’ มักจะหมายถึง ความจำเป็นที่มาจากปัจจัยภายนอก เช่น กฎระเบียบ หน้าที่ หรือข้อบังคับ “I have to wear a uniform at work.” (ฉันต้องใส่ชุดยูนิฟอร์มที่ทำงาน) ส่วน ‘must’ จะหมายถึง ความจำเป็นที่มาจากความรู้สึกภายใน หรือคำสั่งที่แข็งกร้าว “You must finish your homework.” (เธอต้องทำการบ้านให้เสร็จ)
4. การใช้ ‘have something done’ (Causative form) แตกต่างจากการทำเองอย่างไร?
‘Have something done’ เป็นโครงสร้างประโยคที่ใช้เพื่อบอกว่าคุณ ให้คนอื่นทำบางสิ่งให้คุณ โดยที่คุณไม่ได้ลงมือทำเอง เช่น “I have my hair cut.” (ฉันให้ช่างตัดผมให้) ซึ่งต่างจาก “I cut my hair.” (ฉันตัดผมเอง) โครงสร้างนี้จึงมีประโยชน์มากในการอธิบายถึงการใช้บริการ หรือการให้คนอื่นทำบางอย่างให้
นอกจากยังมีสำนวนที่ใช้ Verb to have อีกมากมายและเราคุ้นเคยกันดีอย่าง have a good time. แปลว่า สนุก, have a nice day. ขอให้เป็นวันที่ดี, have one’s own way. แปลว่า เอาแต่ใจตัวเอง ซึ่งเราจะนำมาแนะนำกันในครั้งต่อ ๆ ไป หลังจากนี้ขอให้สนุกกับการใช้ Verb to have นะคะ
อยากเข้าใจแกรมม่าแบบง่ายๆ และนำไปใช้ได้จริงในทุกสถานการณ์? หากคุณกำลังมองหาคอร์ส เรียนแกรมม่าภาษาอังกฤษ ที่สอนแบบเข้าใจง่าย ปูพื้นฐานชัดเจน และปรับเนื้อหาให้เหมาะกับผู้เรียนแต่ละคน เรามีคลาสเรียนตัวต่อตัวกับครูต่างชาติ ที่จะช่วยให้คุณแก้จุดอ่อนด้านแกรมม่า ฝึกใช้ประโยคได้อย่างเป็นธรรมชาติ และสร้างความมั่นใจในการสื่อสารภาษาอังกฤษมากขึ้นทุกวัน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมกับเราได้เลยวันนี้ และเริ่มต้นพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณทันที
Ref.Plook Creator