ความแตกต่างของการใช้ On, Above, และ Over และใช้อย่างไรจึงจะเหมาะสม

ความแตกต่างของการใช้ On, Above, และ Over

On, Above, และ Over เป็นคำศัพท์ที่ใช้ในสถานการณ์ที่คล้ายกัน ทำให้หลายคนสับสนการใช้งานของสามคำนี้ Engcouncil จะมาดูกันว่าแต่ละคำจะมีวิธีการใช้ให้ถูกต้องอย่างไร

ความแตกต่างของการใช้ On, Above, และ Over และใช้อย่างไรจึงจะเหมาะสม

            ทั้ง on, above, และ over เป็นคำศัพท์ที่มีความหมายใกล้เคียงกันและมักถูกใช้ในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน บางครั้งยังสามารถใช้ทดแทนกันได้อีกด้วยแต่ในบางสถานการณ์สามารถเลือกใช้ได้เพียงคำเดียวเท่านั้น ทำให้หลาย ๆ คนอาจสับสนได้ว่าในประโยคนี้ควรใช้ on, above หรือ over วันนี้ Engcouncil สถาบันสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ชั้นนำฯ จะขอพาคุณมารู้จักกับคำศัพท์เหล่านี้ให้มากขึ้นและแนะนำวิธีการที่จะสามารถใช้คำศัพท์ทั้งสามคำนี้ในสถานการณ์ที่ถูกต้องยิ่งขึ้น

วิธีการใช้ ON

On มีความหมายว่า ตั้งอยู่บน, วางอยู่บน

            โดย on จะมีความแตกต่างจากทั้ง over และ above ตรงที่ทำหน้าที่เป็นแค่ preposition ของประโยคเท่านั้น ในขณะที่ over และ above สามารถทำหน้าที่เป็นได้ทั้ง preposition และ adverb ดังนั้นการใช้ on จะถูกไว้หน้า noun เสมอและมักจะอยู่หลัง verb ด้วย เช่น

  • She sits on the chair.
  • Please write down on your piece of paper.
  • Monkey is hanging on the tree.

            ซึ่งหากสังเกตจะเห็นว่าการใช้ on จะใช้กับสิ่งที่มีการสัมผัสกับพื้นผิวและไม่เคลื่อนที่เท่านั้น เช่น การที่คนนั่งบนเก้าอี้ ร่างกายของเราก็ต้องสัมผัสกับเก้าอีก หรือปากกาที่ต้องจรดกับกระดาษ หรือแม้แต่ลิงหากห้อยโหนอยู่บนต้นไม้ ลิงก็ต้องใช้มือหรือร่างกายส่วนอื่นยึดกับต้นไม้เอาไว้ หรือในบางครั้งเองการใช้ on ยังใช้กับสิ่งที่เป็นส่วนเดียวกับพื้นผิวด้วยเช่นกัน เช่น

  • He has a big scar on his face.

วิธีการใช้ ABOVE และ OVER

            การใช้ above และ over นั้นสับสนกว่าการใช้ on เสียอีก เพราะนอกจากสองตัวนี้มักจะถูกใช้ในประโยคที่ใกล้เคียงกันแล้ว ทั้งคู่ยังสามารถเป็นได้ทั้ง preposition และ adverb เหมือนกันอีกด้วย ทำให้ในบางประโยคสามารถใช้ได้ทั้ง above และ over เลย เพื่อว่าตำแหน่งของสิ่งนั้นอยู่เหนือกว่าอีกสิ่งหนึ่ง เช่น

  • The lamp is above the table./ The lamp is over the table.

          แต่ในกรณีนี้จะใช้ได้ทั้งสองตัวก็ต่อเมื่อโคมไฟนั้นอยู่ในตำแหน่งที่ตรงกันกับโต๊ะเท่านั้น ไม่สามารถเยื้องไปทางซ้ายหรือขวา เพราะหากตั้งเยื้องไปทางด้านใดด้านหนึ่งจะใช้ได้แค่กับ above เท่านั้น ไม่สามารถจะใช้ over ได้ จากกรณีนี้จะเห็นได้ว่าการใช้ above และ over นั้นจะมีข้อยกเว้นอยู่บางประการ หากคุณอยากแยกความแตกต่างระหว่างการใช้ above และ over ให้ออกมาดูข้อสังเกตเหล่านี้กันเลย

1.Over ใช้บ่งบอกถึงสิ่งที่มีการเคลื่อนที่และต้องเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง

  • An airplane flies over the ocean.
  • Please sit over there.
  • Children throw the ball over my head.

2.Over ใช้ในความหมายที่แปลกว่า ปกคลุม หรือ ห่ม

  • She put the green-red tablecloth over the table for this christmas.
  • They planted the grasses over the field.

            (โดยในกรณีนี้หากมีการใช้ above แทนการใช้ over เป็น She put the green-red tablecloth above the table for this christmas. จะหมายถึงผ้าปูโต๊ะที่ลอยอยู่เหนือโต๊ะ และถ้าเป็น They planted the grasses above the field. ก็จะหมายถึงต้นหญ้าได้ลอยอยู่เหนือพื้นดิน ดังนั้นการใช้ over จึงจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม)

3.Over ใช้กับจำนวนที่มีตัวเลขชัดเจน ในความหมายที่แปลว่า มากกว่า (more than)

  • They have been together for over twenty years.
  • There are over a thousand people in this football stadium.
  • I’ve been waiting for over an hour.

4.Above ใช้บ่งบอกระดับที่เหนือกว่า/ ดีกว่า (better than)

  • A Manager is above an Assistant Manager.
  • They thought they were above the law.
  • This village is 800 meters above the sea level.

5.Above ใช้กับการบอกอุณหภูมิ

  • This summer, the temperatures will rise above 40 degrees Celsius.

นอกเหนือจากในกรณีเหล่านี้จะพบว่าการใช้ over เป็นที่นิยมและถูกต้องตามหลักไวยากรณ์มากกว่าการใช้ above