รู้ไว้ใช่ว่า! พาส่องพฤติกรรมการเรียนที่สำคัญที่คนอย่างเก่งภาษาต้องมี
อยากเก่งภาษา ปัญหาไม่ใช่ที่หลักสูตรหรือคอร์สเรียน แต่มันคือลักษณะการเรียนรู้ของคนนั้นๆ ต่อการเรียนภาษา ซึ่งถ้าจะให้การเรียนภาษามีประสิทธิภาพที่สูงควรจะเริ่มจากพฤติกรรมต่างๆ และการสร้างรูทีนเพื่อให้การเรียนภาษาเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ วันนี้ Engcouncil จะมาแนะนำให้คุณได้เข้าใจว่าการมีรูทีนมีผลต่อการเรียนภาษาอย่างไร และพฤติกรรมแบบไหนที่จะช่วยให้การเรียนภาษามีแต่ดีขึ้นเรื่อยๆ บ้างมาดูกันเลย
[ การสร้างรูทีนมีผลอย่างไรต่อการเรียนภาษา? ]
การสร้างรูทีนหรือกิจวัตรประจำวันเปรียบเสมือนกุญแจสำคัญที่ปลดล็อกประสิทธิภาพการเรียนรู้ภาษาของคุณ ซึ่งรูทีนที่ดีจะส่งผลดีต่อสมองของคุณ ช่วยให้จดจำ ประมวลผล และใช้ภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาดูกันว่ากลไกการทำงานของสมองนั้น ส่งผลต่อการเรียนภาษาผ่านรูทีนอย่างไร
1. เสริมสร้างการจดจำด้วยระบบความจำระยะยาว
สมองของเราประกอบไปด้วยระบบความจำระยะสั้นและระยะยาว ระบบความจำระยะสั้นทำหน้าที่เก็บข้อมูลชั่วคราว เปรียบเสมือนกระดานดำที่ใช้จดบันทึก แต่ข้อมูลเหล่านี้จะถูกลบออกเมื่อไม่ได้ใช้งาน ในทางกลับกัน ระบบความจำระยะยาวทำหน้าที่เก็บข้อมูลถาวร เปรียบเสมือนการฝึกฝนซ้ำๆ ช่วยให้ข้อมูลภาษาถูกย้ายจากระบบความจำระยะสั้น สู่ระบบความจำระยะยาว สมองของคุณจะคุ้นเคยกับรูปแบบประโยค คำศัพท์ ไวยากรณ์ ทำให้จดจำได้แม่นยำ พร้อมใช้งานโดยไม่ต้องท่องจำ
2. กระตุ้นการหลั่งสารโดปามีน เพิ่มแรงจูงใจ
โดปามีน เปรียบเสมือนรางวัลจากสมอง หลั่งออกมาเมื่อเราทำกิจกรรมที่น่ายินดี เช่น การทานอาหารอร่อย การฟังเพลงโปรด โดยดปามีนจะกระตุ้นความรู้สึกพึงพอใจ สร้างแรงจูงใจ และส่งผลดีต่อการเรียนรู้ การมีรูทีน ช่วยให้การเรียนภาษาเป็นกิจวัตรที่สม่ำเสมอ กระตุ้นให้สมองหลั่งโดปามีน สร้างแรงจูงใจ ทำให้คุณรู้สึกสนุก ท้าทาย และอยากเรียนรู้ภาษาต่อไป
ยกตัวอย่างเช่น คุณตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะฝึกภาษาอังกฤษ 30 นาทีทุกวัน เมื่อคุณบรรลุเป้าหมาย สมองของคุณจะหลั่งโดปามีน สร้างความรู้สึกพึงพอใจ กระตุ้นให้คุณอยากฝึกฝนต่อในวันถัดไปนั่นเอง
3. เสริมสร้างการทำงานของ ฮิปโปแคมปัส ศูนย์กลางการเรียนรู้และความทรงจำ
ฮิปโปแคมปัส เปรียบเสมือนคลังเก็บความทรงจำ ทำหน้าที่เก็บข้อมูลใหม่ ประมวลผล และเชื่อมโยงกับความรู้ที่มีอยู่ เมื่อคุณเรียนรู้ภาษาใหม่ ฮิปโปแคมปัสจะทำงานหนักเพื่อจัดเก็บข้อมูลคำศัพท์ ไวยากรณ์ รูปแบบประโยค และวัฒนธรรม
การมีรูทีน ช่วยให้ฮิปโปแคมปัสทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการฝึกฝนซ้ำๆ ช่วยให้สมองคุ้นเคยกับข้อมูลภาษา ประมวลผลได้เร็วขึ้น จดจำได้แม่นยำ และ เชื่อมโยงกับความรู้เดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
[ 4 พฤติกรรมที่คนเก่งภาษาต้องมี ]
1.ตั้งเป้าหมายอย่าง S M A R T
จากหัวข้อที่แล้ว เราพูดถึงกลไกการทำวานของสมอง การตั้งเป้าหมายจะช่วยให้การเรียนภาษามีประสิทธิภาพสูง และเห็นผลได้รวดเร็วมากขึ้น S M A R T เป็นหลักการเรียนภาษาที่ย่อมาจากตัวอักษรภาษาอังกฤษ ดังต่อไปนี้
สมมติว่าคุณตั้งเป้าหมายว่าจะอ่านหนังสือภาษาอังกฤษให้ได้ มาดูว่าจะใช้หลักการ smart อย่างไรได้บ้าง
S = Specific (เจาะจง) อาจตั้งว่าจะอ่านหนังสือ 1 เล่มใน 1 เดือน คือตั้งเป้าหมายอย่างเจาะจง
M = Measurable (เป้าหมายวัดได้) เช่นการอ่านหนังสือวันละ 10-15 หน้าในหนึ่งวันเป็นขั้นต่ำ
A = Achievable (ทำได้จริง) สามารถอ่านหนังสือได้ 1 บทในระยะเวลาสั้นๆ แทนที่จะเป็นหลายสัปดาห์
R = Relavant (เกียวข้องกับความชอบส่วนตัว) เช่นอาจเลือกอ่นหนังสือแนวที่ตัวเองชอบ ไม่ยากหรือน่าเบื่อจนเกินไป
T = Timely (มีเวลากำหนดชัดเจน) เป็นการตั้งเป้าหมายที่จะต้องสำเร็จในระยะเวลาหนึ่งๆ เช่น จะอ่านหนังสือ 4 เล่มในระยะเวลา 1 ปี เป็นต้น
2.หาเวลาฝึกอย่างสม่ำเสมอ ไม่หาข้ออ้าง
การแบ่งเวลาจากการเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์ หรือยอมลดเวลาในการเสียเวลากับเรื่องที่ไม่จำเป็นมาเรียนภาษาแค่วันละ 30- 60 นาทีก็ยังดี ช่วยให้เรียนภาษาได้ดีขึ้น ฝึกการจำของสมองเพื่อการใช้งานในระยะยาว อาจจะเป็นการตื่นเช้าก่อนทำงานมาอ่าน หรือช่วงพักเที่ยงก็ย่อมได้
3.มี cheat day หรือเวลาพักผ่อนให้ตัวเองบ้าง
เหมือนกับเวลาที่เราพยายามลดน้ำหนัก การมีชีทเดย์ให้ตัวเองจะเป็นเหมือนเป้าหมายเล็กๆ ที่อยากทำให้เป้าหมายหลักให้จบไวๆ เพื่อชีทเดย์ หรือเวลาที่เราทำงานมาทั้งเดือน วันเงินเดือนออกจะเป็นเมือนชีทเดย์รูปแบบหนึ่งเช่นกัน สำหรับใครที่อยากเรียนทุกวัน อาจจะให้เวลาพักระหว่างเรียนซัก 10-15 นาที หรือแบบยาวๆ 30-60 นาทีก็ย่อมได้ ถือเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้ตัวเองแบบย่อมๆ ก่อนลุยต่อ
4.ฝึกภาษาให้สนุกผ่านสิ่งที่ตัวเองชอบ
ถ้าส่วนตัวคุณชื่นชอบการดูหนัง ฟังเพลง พยายามใช้สื่อเหล่านี้เป็นช่องทางในการเรียนภาษา ฝึกช่วงแรกอาจจะยากหน่อยแต่ทำบ่อยๆจนเคยชิน จะทำให้ภาษาคุณแข็งแรงขึ้นอย่างแน่นอน
ทั้ง 4 พฤติกรรมนี้ล้วนเป็นสิ้งที่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ ไม่ใช่พรสวรรค์ที่มาพร้อมในตอนเกิด ดังนั้นแล้วหากลองปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต และมีเป้าหมายอย่างชัดเจน 4 พฤตอกรรมน้จะช่วยให้การเรียนภาษาของคุณเป็นไปตามเป้าหมายแน่นอน