หลักการใช้งาน Punctuations หรือเครื่องหมายวรรคตอน

หลักการใช้งาน Punctuations หรือเครื่องหมายวรรคตอน

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้สถาบันสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ Engcouncil จะมานำเสนอ หลักการใช้งาน Punctuations หรือเครื่องหมายวรรคตอน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ไม่น้อยไปกว่าเรื่องแกรมม่า คำศัพท์ สำหรับการเขียนภาษาอังกฤษ ดังนั้นเรามาทำความรู้จักเครื่องหมายวรรคตอนในภาษาอังกฤษพร้อมหน้าที่การใช้งานกันค่ะ

1.Full Stop (.)

ในภาษาอังกฤษแบบบริติช , Period ในภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน คือ เครื่องหมายมหัพภาค

  • ใช้เมื่อจบประโยคบอกเล่าหรือคำสั่ง เช่น I like football.
  • ใช้เขียนไว้หลังอักษรย่อหรือคำย่อ เช่น Dr. = Doctor, U.S.A. = United States of America

2.Comma (,) 

เครื่องหมายจุลภาค หรือเครื่องหมายลูกน้ำ

  • ใช้แยกวลีหรือประโยค เช่น As you sow, so you reap.
  • ใช้คั่นรายการ รายชื่อต่างๆ ในประโยค เช่น I bought milk, cheese, egg and bread.

3.Semi-colon (;)

เครื่องหมายอัฒภาค

  • ใช้เชื่อมประโยคสองประโยคที่ไม่มีคำเชื่อม และทั้งสองประโยคมีความหมายเกี่ยวเนื่องกัน เช่น Benz drives a Lumborghini; Pong drives a Jaguar.

4.Colon (:) 

เครื่องหมายมหัพภาคคู่ หรือเครื่องหมายทวิภาค

  • ใช้ก่อนประโยคอธิบาย เช่น We have two choices: work hard or fail.
  • ใช้แจ้งรายการหรือรายละเอียด มักใช้ตามหลังคำ the following หรือ as follows เช่น I want the following items: butter, sugar, and flour.

5.Question Mark (?)

เครื่องหมายปรัศนี หรือ เครื่องหมายคำถาม

  • ใช้ปิดท้ายประโยคคำถาม เช่น Where are you going?

6.Exclamation Mark (!)

เครื่องหมายอัศเจรีย์ หรือ เครื่องหมายตกใจ

  • ใช้ไว้หลังคำอุทานหรือประโยคอุทาน เช่น It is cold!

7.Apostrophe (’)

เครื่องหมายวรรคตอน

  • ใช้สำหรับคำย่อ เช่น don’t (do not), can’t (can not), it’s (it is), You’re (you are) ready.
  • ใช้แสดงความเป็นเจ้าของคำนามทั้งเอกพจน์และพหูพจน์ เช่น This is Jane’s car.

8.Round Brackets ( )

เครื่องหมายนขลิขิต หรือ เครื่องหมายวงเล็บ

  • ใช้เพิ่มข้อมูลเพิ่มในประโยค เช่น Mount Fuji (富士山) is the highest mountain in Japan.

9. Square Brackets [ ]

(ภาษาอังกฤษแบบบริติช), Brackets (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน) = เครื่องหมายวงเล็บเหลี่ยม

  • ใช้เพิ่มคำอธิบาย, ข้อมูล หรือข้อความที่ยกมาใหม่ มักใช้คร่อมคำว่า [sic] สื่อว่าคำหรือวลีที่ยกมานั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง

10.Quotation Marks (“ ”)

เครื่องหมายอัญประกาศ หรือ เครื่องหมายคำพูด

  • ใช้เขียนคร่อมข้อความที่เป็นคำพูด เช่น Trump said, “I don’t like losers.”

11.Ellipsis Marks หรือ Three dots (…)

เครื่องหมายจุดไข่ปลา

  • ใช้เพื่อแสดงว่ากลุ่มคำในประโยคที่เหลือมีการละไว้ เช่น You went to the cafe. And…? , 1, 2, 3, …,100

12.Slash (/)

เครื่องหมายทับ

  • ใช้แยกคำ วลี หรือตัวเลข เช่น and/or , 2017/06/09

13.Underscore (_)

  • ใช้เขียนเส้นใต้ เช่น kgr_dir@jvk.com

14.Hyphen (-)

เครื่องหมายยัติภังค์

  • ใช้เชื่อมคำสองคำ หรือหลายคำเป็นคำเดียวกันเช่น ex-boyfriend, The fifteen-year-old boy is full-time student.

15.Dash (__)

  • ใช้แยกส่วนของประโยค เช่น You ain’t telling me right – your folks couldn’t do without you.                                                                                                                                     

16.Underline (_____)

เครื่องหมายสัญประกาศ หรือเครื่องหมายขีดเส้นใต้

  • ใช้ขีดเส้นใต้คำหรือข้อความเพื่อเน้นความสำคัญ เช่น Everyone knows that Bangkok is the capital of Thailand.

เป็นไงบ้างคะเพื่อนๆ สำหรับเกร็ดความรู้เล้กๆน้อยๆเรื่อง Punctuations ไม่ยากเลยใช่มั้ยคะ  ยังไงก็ลองนำไปใช้หรือลองฝึกเขียนดูนะคะ และถ้าหากว่าเพื่อนคนไหนสนใจคอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวแบบออนไลน์สามารถติดต่อเพื่อขอรับคำแนะนำการลงทะเบียนเรียนจากเราได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ที่นี่ ค่ะ